วันสตรีสากล ตรงกับวันที่ 8 มีนาคม ของทุกปี เป็นวันที่รำลึกถึงการต่อสู้เพื่อสิทธิสตรี เฉลิมฉลองความสำเร็จ และส่งเสริมความเท่าเทียม บทความนี้จะพาย้อนรอยประวัติอันยาวนานของวันสำคัญนี้
ประวัติ วันสตรีสากล: การลุกฮือของกรรมกรหญิง
ต้นกำเนิด ของวันสตรีสากลย้อนไปปี ค.ศ. 1908 เริ่มต้นจากการลุกฮือของกรรมกรหญิงในโรงงานทอผ้าเมืองชิคาโก ประเทศสหรัฐอเมริกา พวกเธออดทนต่อสภาพการทำงานที่ยากลำบาก ค่าจ้างต่ำ และถูกกดขี่
8 มีนาคม ค.ศ. 1908: ประกายไฟแห่งการเปลี่ยนแปลง
ในวันที่ 8 มีนาคม ค.ศ. 1908 กรรมกรหญิงกว่า 15,000 คน หยุดงานประท้วง เรียกร้องสิทธิในการทำงาน ค่าจ้างที่เท่าเทียม และสภาพการทำงานที่ดีขึ้น เหตุการณ์นี้จุดประกายการต่อสู้เพื่อสิทธิสตรี
การประกาศวันสตรีสากล: คลื่นใต้น้ำสู่การยอมรับ
ค.ศ. 1910 Clara Zetkin นักสังคมนิยมหญิงจากเยอรมนี เสนอให้มีการเฉลิมฉลอง “วันสตรีสากล” ในวันที่ 8 มีนาคม เพื่อรำลึกถึงการต่อสู้ของกรรมกรหญิง
ค.ศ. 1911 วันสตรีสากลจัดขึ้นครั้งแรกในหลายประเทศ
ค.ศ. 1975 องค์การสหประชาชาติ (UN) รับรอง “วันสตรีสากล” อย่างเป็นทางการ
การต่อสู้เพื่อสิทธิสตรี: บทเรียนจากอดีต
วันสตรีสากล เป็นเครื่องเตือนใจให้เราตระหนักถึงการต่อสู้ ความเสียสละ และความสำเร็จของผู้หญิงในอดีต
ประเด็นสำคัญ: การต่อสู้ยังไม่จบ
แม้จะมีความก้าวหน้า แต่ผู้หญิงยังเผชิญปัญหา อคติ และความเหลื่อมล้ำ
ประวัติ วันสตรีสากล ประเด็นสำคัญที่เปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย
ค.ศ. 1975 ประเด็นหลักคือ ปีแห่งสตรี
ค.ศ. 1995 ประเด็นหลักคือ การเสริมสร้างพลังอำนาจของผู้หญิง
ค.ศ. 2023 ประเด็นหลักคือ #EmbraceEquity
วันสตรีสากล: พลังขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลง
วันสตรีสากล เป็นเวทีกระตุ้นให้สังคมตระหนัก ร่วมสร้างอนาคตที่ผู้หญิงทุกคนมีสิทธิ มีโอกาส และความเท่าเทียม
บทบาทของเรา: ร่วมสร้างสังคมที่เท่าเทียม
ทุกคนมีส่วนร่วมสร้างสังคมที่ผู้หญิงมีศักดิ์ศรี มีสิทธิ มีโอกาส และความเท่าเทียม
ร่วมรณรงค์: กระจายความรู้ ความเข้าใจ ร่วมสร้างสังคมที่ผู้หญิงมีสิทธิและโอกาสเท่าเทียม
วันสตรีสากล เป็นวันที่เราต้องร่วมรำลึก เฉลิมฉลอง และร่วมสร้างอนาคตที่ผู้หญิงทุกคนมีศักดิ์ศรี มีสิทธิ มีโอกาส และความเท่าเทียม