ซีรีส์ “แม่หยัว” ตอนจบปิดฉากอย่างตราตรึงใจ โดยนำเรื่องราวจากหน้าประวัติศาสตร์ไทยมาถ่ายทอดผ่านมุมมองใหม่ แรงบันดาลใจจาก “ท้าวศรีสุดาจันทร์” บุคคลในตำนานแห่งอโยธยา ซึ่งนำแสดงโดย ใหม่ ดาวิกา ในบท ท้าวศรีสุดาจันทร์ และ ฟิล์ม ธนภัทร ในบท ขุนวรวงศาธิราช
แม้ว่าบทสรุปของเรื่องจะดำเนินไปตามที่ประวัติศาสตร์จารึกไว้ แต่ซีรีส์นี้สามารถนำเสนอเรื่องราวของตัวละครที่ถูกมองว่าเป็นผู้ร้ายในประวัติศาสตร์ได้อย่างลึกซึ้ง
เราลองมาดูความคิดเห็นของผู้ชมผ่านแฮชแท็ก #แม่หยัวตอนจบ บน X ว่าจะพูดถึงเรื่องราวในตอนจบนี้อย่างไรบ้าง
ความเห็นชาวเน็ตต่อ “แม่หยัว” ตอนจบ
- การตีความตัวละคร “ท้าวศรีสุดาจันทร์”: ซีรีส์ถ่ายทอดเรื่องราวผ่านมุมมองของตัวละครที่เป็นหญิงแกร่งที่ต้องรับบทบาทสำคัญทั้งในฐานะลูก เมีย แม่ และแม่อยู่หัว แม้ชีวิตจะมีข้อจำกัด แต่แสดงให้เห็นว่าครั้งหนึ่งผู้หญิงเคยขึ้นมามีบทบาทสำคัญในประวัติศาสตร์ และยังสะท้อนความสำคัญของการยึดมั่นในคุณธรรม
- องค์ประกอบในซีรีส์ยอดเยี่ยม: แสง สี ฉาก มุมกล้อง และเครื่องแต่งกายงดงามอย่างลงตัว รวมถึงบทที่เขียนมาอย่างยอดเยี่ยม ทำให้ซีรีส์เรื่องนี้สมบูรณ์แบบจนคนดูรู้สึกว่าเป็นกำไรชีวิต
- การแสดงที่น่าประทับใจ: นักแสดงทุกคนทำผลงานได้ดีเยี่ยม โดยเฉพาะการถ่ายทอดอารมณ์ของตัวละคร “ตันหยง” ที่เปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจนหลังสูญเสียจินดา ผู้ชมชื่นชมว่าการแสดงของ “เฟิร์นนพ” สื่ออารมณ์ได้อย่างลึกซึ้ง
- ความสะเทือนใจในตอนจบ: เนื้อหาตอนจบสะเทือนอารมณ์ผู้ชม ไม่ว่าจะเป็นชะตากรรมของตัวละคร หรือบทพูดที่สะท้อนความเจ็บปวดและความเสียสละ เช่น คำพูดของขุนวรวงศาที่ว่า “ชนะเป็นเจ้า แพ้เป็นโจร” ทำให้เห็นถึงการตีความประวัติศาสตร์ที่ถูกเขียนขึ้นโดยผู้ชนะ
- ฉากจบที่ตราตรึงใจ: คำพูดสุดท้ายของท้าวศรีสุดาจันทร์สะท้อนถึงความเป็นอมตะของตัวละครในหน้าประวัติศาสตร์ “ขอให้เรื่องราวของข้าเป็นเครื่องเตือนใจ และอย่าลืมว่าครั้งหนึ่งอโยธยาเคยมีข้า แม่อยู่หัวนามว่าท้าวศรีสุดาจันทร์”
ผู้ชมหลายคนยกย่องทั้งบท การแสดง และทีมงานเบื้องหลังที่ช่วยกันสร้างซีรีส์เรื่องนี้ออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม เรียกได้ว่าเป็นผลงานที่ประทับใจระดับ 100/10!
